หลายคนอาจจะยังไม่รู้จักธัญพืชสีดำ 2 ชนิด อย่าง “งาดำ และ ข้าวสีนิล” ธัญพืชทั้ง 2 ชนิดนี้ นอกจากใช้เป็นอาหารได้แล้ว ยังมีสรรพคุณทางยาหลายอย่างที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งเชื่อว่า ถ้าใครได้รู้จักแล้วต้องหลงรักอย่างแน่นอน เพราะนอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้ว ยังช่วยให้ผิวพรรณสดใสเปล่งปลั่งด้วยค่ะ
ทำความรู้จักกับ… ข้าวสีนิล
ข้าวสีนิล เป็นข้าวที่ได้รับการคัดเลือกจนได้ข้าวที่มีเมล็ดข้าวกล้องเรียวยาว สีม่วงเข้ม สารสกัดจากรำข้าวหอมนิล อุดมไปด้วย น้ำมันธรรมชาติ, วิตามินอี และบี คอมเพล็กซ์ และรงควัตถุแอนโทไซยานิน (anthocyanin) มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระมากว่าในเบอร์รี่ 3 เท่า และมากกว่าวิตามินอีถึง 5 เท่าซึ่ง ช่วยให้ผิวดูอ่อนกว่าวัย เรียกว่าลืมเรื่องริ้วรอยก่อนวัยอันควรไปเลย เพราะสารต้านอนุมูลอิสระลดความเสียหายของผิวหนังที่เกิดจากขบวนการออกซิเดชั่น (oxidation) ซึ่งสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดขบวนการออกซิเดชั่น คือ รังสีอัลตร้าไวโอเลต ทั้งยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ อาทิ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ช่วยทำให้เส้นผมดำ นุ่มสลวย ช่วยบำรุงรากผมให้พร้อมกระตุ้นให้ผมมีสีเข้มขึ้นตามธรรมชาติ ชะลอการเกิดผมหงอกก่อนวัยอันควร
มาทำความรู้จักกับ งาดำ กันบ้าง…
งาดำ ที่มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Sesamum orientale L. อยู่ในวงศ์ Pedaliaceae จัดเป็นธัญพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณประโยชน์สูงมาก มีเซซามิน (Sesamin) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จึงเป็นการรับมือโดยตรงกับอนุมูลอิสระตัวร้ายที่ทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวนั่นเอง ช่วยให้นอนหลับ ช่วยให้ไม่โทรม ดูมีเลือดฝาด และดูดีได้
รู้หรือไม่? ว่า..ธัญพืชสีดำสองชนิดถูกนำมารับประทานคู่กันจะทำให้เกิดปรากฏการณ์ “Super Antioxidant”
ธัญพืชสีดำเมล็ดเล็กๆ สองตัวนี้ แม้จะดูมีหน้าที่คล้ายๆ กัน แต่การได้รับสารต้านอนุมูลอิสระจากอาหารหลายๆ ประเภท จะให้ผลในการป้องกันมากกว่าการได้รับจากแหล่งใดแหล่งหนึ่ง เนื่องจากมีฤทธิ์สร้างเสริมกัน ทำให้ธัญพืชที่ให้สารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดจะมีประสิทธิภาพมากขึ้นเมื่อได้รับประทานร่วมกัน
โดยฤทธิ์ต่อต้านอนุมูลอิสระในงาดำ มาจากสารเซซามิน ส่วนข้าวสีนิลมาจากแอนโทไซยานิน ในส่วนของรำข้าว ซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ โดยทำหน้าที่เข้าไปจับอนุมูลอิสระ ไม่ให้มาทำร้ายเซลล์ในชั้นผิว ดังนั้น ทั้งงาดำและข้าวสีนิลจึงถูกให้ฉายาว่าเป็นราชาและราชินีแห่งธัญพืชในการต้านอนุมูลอิสระ เมื่อรับประทานงาดำคู่กันกับข้าวสีนิลจึงเป็นการส่งผลแบบทวีคูณเป็น Super Antioxidant ซึ่งให้ประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากการเกิดริ้วรอย และ บำรุงให้ผิวดูอ่อนเยาว์ดูดีแบบดับเบิ้ลได้ง่าย ๆ ทุกวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมการข้าว, sininrice.com, Chrispeels, M.L. and E.S. Davidd
สำหรับคนที่รู้สึกว่าหา งาดำและข้าวสีนิลที่จะรับประทานคู่กันยากลำบาก ปัจจุบันมีผู้ผลิต ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ที่มีส่วนประกอบสำคัญ 3 อย่าง คือ งาผง (Sesame Cake) รำข้าวสีนิล (Black Rice Bran) และ แป้งข้าวหอม (Pre-Cooked Rice :PCR) ซึ่งมีอัตราส่วนการผสมที่ลงตัว ผ่านการวิเคราะห์วิจัย จากห้องแลปทันสมัย จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดย รศ.ดร. ปรัชญา คงทวีเลิศ และทีมงาน ค้นคว้าวิจัยจนได้สูตรผสมที่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากที่สุด ซึ่งให้คุณประโยชน์เต็มๆ มากกว่าการรับประทานข้าวสีนิลและงาดำทั่วไปซะอีก และยังสามารถหาซื้อได้ง่ายและทานได้ทุกวัน ไม่มีสารตกค้างอีกด้วย ลองดูนะคะ
สอบถามข้อมูลผลิตภัณฑ์งาดำและรำข้าวสีนิลได้ที่ www.baannumjai.com
หรือแอดไลน์ @baannumjai คุยกับเรานะคะ