10 เหตุผลที่ควรกินอาหารเสริม

เอมมูร่า อาหารเสริมดูแลสุขภาพ

ชีวิตคน ทำอย่างไรจะให้มีความสุข สุขภาพดี สรุปลงที่ อาหารมีความสำคัญมาก แต่กินอะไรมาบ้าง มีไม่กี่คนที่จำได้ถึง 10 มื้อ เพราะเรากินทุกวันไม่ได้คำนึงว่าเป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเราหรือไม่ เรากินอาหารทุกๆ วันโดยคิดถึงอะไรบ้าง เราจำได้ไหมว่ามื้อที่แล้วเรากินอะไร สิ่งที่เรากินเข้าไปก็เพื่อทำให้อิ่ม อร่อย หรืออาจจะง่าย ราคาถูก ดังนั้น เราจึงมีปัญหาสุขภาพต่างๆ เยอะแยะมากมาย ก็เลยต้องมีตัวช่วย ตัวช่วยนั้นคืออะไรครับ สิ่งหนึ่งซึ่งน่าจะเป็นประโยชน์กับเรา คือ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หลายคนอาจจะหัวเราะนะว่า ทำไมฉันต้องกินด้วย แต่ท่านเชื่อไหมครับว่าในประเทศที่เจริญแล้ว เช่น เดนมาร์ก มีคนใช้อาหารเสริมมากถึง 68 % หมายถึง 68 คนใน 100 คน บริโภคอาหารเสริม มีคนรวบรวมไว้นะครับว่า อาหารเสริมมีประโยชน์อย่างไร ทำไมเราต้องกินมันด้วย

1. เกษตรกรรมในปัจจุบันทำให้เราสามารถปลูกพืชผลได้เร็ว ผลผลิตมากมาย ในระยะเวลาสั้นๆ ดังนั้น คุณภาพดินต่ำลง อย่างเห็นได้ชัด ผลไม้ที่ได้จากดินที่ปลูกซ้ำๆ กัน ก็จะมีคุณค่าทางอาหารน้อยลงตามไปด้วยนะครับ

2. อาหารหลายๆ อย่าง ต้องถูกขนส่งระยะทางไกล ขึ้นรถลงเรือ ผลผลิตจากใต้ขึ้นเหนือ ผลผลิตจากเหนือลงใต้ ระยะเวลานานก็ทำให้เกิดการสูญเสีย สารอาหารต่างๆ ในอาหารและผลไม้ เช่น พวกวิตามินซี บีคอมเพล็กซ์ สูญเสียได้

3. ในกระบวนการทำอาหาร เช่น การคลุก การปรุงแต่ง การหมักดองเก็บถนอมอาหารไว้นานๆ สิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็จะทำให้มีคุณค่าทางอาหารเสียไป ยากที่เราจะรับมันได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย

4. ในปัจจุบันพืชทางเกษตรกรรมจำนวนมาก อาจมากกว่าครึ่ง ถูกกระบวนการทางชีววิทยา หรือชีวเคมี พบว่ามีการตกแต่งสารทางพันธุกรรม ซึ่งจริงๆ แล้ว มันคงไม่ได้เกิดโทษ เพราะว่ามันเป็นการตัดแต่งสารทางพันธุกรรม แต่ในอนาคตระยะยาวสิบปีร้อยปีนี่ ก็ไม่มีใครกล้ารับประกันได้ว่า จะไม่เกิดโทษ

5. นิสัยของเราเอง นิสัยการกิน (บริโภคนิสัย) ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น การเคี้ยวอาหาร ทราบไหมว่า การเคี้ยวอาหารช่วยระบบทางเดินอาหารของเราให้ทำงานน้อยลง บางคนพอใส่เข้าปากก็กลืนเลย ถ้าอย่างนี้ก็แย่นิดนึง หรือไม่บางครั้งก็ไม่สามารถดูดซึมอาหารได้ เพราะกระเพาะ ลำไส้ ไม่สามารถย่อยได้ทัน

6. มียาหลายๆ อย่าง ช่วยร่างกายเราแล้ว มันยังไปมีผลในทางไม่ดีกับร่างกายเราด้วย เช่น ยาฆ่าเชื้อ หรือแอนตี้ไบโอติก พอเจ็บคอก็กินยา เป็นนู่นเป็นนี่ก็กินยา ยาแก้อักเสบหลายๆ อย่าง ก็พบว่า สามารถที่จะไประงับยับยั้งการผลิตวิตามินในร่างกายเราตั้งหลายชนิดเลยทีเดียว

7. ในช่วงชีวิตของคนเรา มีช่วงไม่ธรรมดา เช่น คนท้องกินอาหารเปลี่ยนไป หรือวัยฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง

8. มลพิษ (pollution) สารพิษต่างๆ สร้างภาระการทำงานแก่เนื้อเยื่อ และการใช้วิตามิน A, C, E

9. ในอาหารหลายอย่างที่เราเคยกินมาแต่เด็ก ปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลง เหลือสารอาหารน้อยลง

10. สารอาหารหลายอย่างที่เรากิน ได้มีการพิสูจน์ทางแลป พบว่า ช่วยดูแลสุขภาพเราได้ เช่น ข้อเสื่อม ข้ออักเสบ หรือโรคเวรกรรม (กรรมพันธุ์) หรือแม้กระทั่งมะเร็ง

ศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ
29 เม.ย. 2560

เชื่อหมอดีไหม?

hospital

ข้อแนะนำความคิดเห็นจากผู้มีประสบการณ์ชั่วชีวิตเกี่ยวกับโรงพยาบาลและ แพทย์

ดิฉันอายุกว่า 60 ปีแล้ว ชีวิตเข้าไปผูกพันกับโรงพยาบาลแทบทุกแห่งในกรุงเทพฯ เมื่อมีลูกชายและลูกคลอดออกมาเป็นเด็กไม่สมประกอบ คนเป็นแม่ขมขื่น เศร้าหมอง สิ้นหวังและเครียดมากค่ะ

เมื่อต้องเลี้ยงลูกผู้พิการ ดิฉันและคุณสามีเหมือนคลำทางในความมืดมิด ไม่มีคำแนะนำดีดีจากใครสักคน เหมือนโลกทั้งโลกไม่เคยดูแลเด็กชายหน้าตาดีที่เกิดมามีสมองฝ่อและชักตลอดเวลา

ดิฉันได้เรียนรู้และเกิดสติปัญญาขึ้นมากจากการเลี้ยงลูกชายผู้ตายจากไปเมื่ออายุ 6 ปี

สิ่งที่ดิฉันเรียนรู้คือ

๑ แพทย์ไม่ใช่เทวดา ท่านไม่สามารถช่วยอะไรคุณได้ จริงๆ นะคะ

๒ แพทย์แต่ละคนเก่งไม่เท่ากัน แพทย์ก็เป็นคนจึงมีอารมณ์และมีวันที่ทำงานดี วันที่ทำงานไม่ดี

๓ แพทย์รักษาตามอาการ และยาที่มี การวินิจฉัยอาจถูกหรือผิดก็ได้

๔ คนป่วยต้องสังเกตตัวเองให้ดีที่สุด แล้วรายงานแพทย์ให้ได้ละเอียด เพื่อช่วยตัวเองให้มากที่สุด อย่าเป็นคนป่วยที่ไม่รู้อะไรเลย แล้วคาดหวังว่าแพทย์จะรู้ทุกอย่าง

๕ แพทย์ที่ดีรักษาตามตำราค่ะ เท่านั้นจริงๆ นะคะ ถ้าวินิจฉัยผิดคือรักษาผิด เพราะฉะนั้น

๖ คนป่วยต้องรู้ตัวว่าทานยาแล้วรักษาแล้วไม่ได้ผล ต้องรีบหาแพทย์คนใหม่นะคะ จะกลับไปหาแพทย์คนเดิมก็ได้ในกรณีเป็นโรคหวัด แต่ถ้าเป็นโรคที่ซับซ้อนมากๆ เช่นระบบประสาท ระบบกระดูก มะเร็ง ฯลฯ ควรพบแพทย์อย่างน้อยสองคนเพื่อความรอบคอบ

๗ ถ้าแพทย์แนะนำอะไรที่คุณไม่อยากทำ ไม่ต้องทำค่ะ เช่น ผ่ากระดูกสันหลัง ผ่าต้นคอ ผ่ากระดูกหัวเข่า ผ่าสมอง ฯลฯ อวัยวะเหล่านี้ ต้องปรึกษาแพทย์อย่างน้อย 3 คนนะคะ ก่อนตัดสินใจ ส่วนใหญ่สัญชาติญาณของคนป่วยมักถูกต้อง เช่นยังไม่อยากผ่า กลัว เป็นต้น ถ้าการผ่าจำเป็นจริงๆ ต้องให้แพทย์หาเหตุผลมาเปลี่ยนใจคุณให้ได้นะคะ

๘ แพทย์แต่ละคนชำนาญและมีหลักการรักษาต่างกัน ไม่มีใครถูกใครผิด คุณต้องตัดสินใจเองว่าคุณชอบแบบไหน เช่นโรควัยทอง ดิฉันเลือกที่จะรักษากับแพทย์ที่ไม่ให้คนไข้ใช้ฮอร์โมน ดิฉันมีอาการวัยทองน้อยมาก นอนไม่หลับไม่เดือดร้อน ร้อนวูบเย็นวาบไม่เดือดร้อน คันหนังศีรษะ อ้อ วัยทอง จิตตกเศร้าหมอง ปรับตัวไปตามความจำเป็นค่ะ หงุดหงิดบ้างก็ทนทนกันไป ไม่มีการทานฮอร์โมน เพราะดิฉันมีแนวโน้มมีก้อนที่หน้าอกอยู่แล้ว จะเพิ่มโอกาสการเป็นมะเร็งทำไม

๙ ใครจะตายต่อให้หาหมอเก่งอย่างไรก็ตายค่ะ ใครจะหาย ป่วยหนักผงาบผงาบ หมอไม่ให้ความหวังเลย ยังหาย

๑๐ สิ่งมหัศจรรย์ที่สุด มีปาฏิหาริย์มากที่สุดคือร่างกายของคุณเอง ร่างกายที่คุณได้มาจากพ่อแม่ และคุณรับมาดูแล ส่วนใหญ่คนเราป่วยจากอาหารและเครื่องดื่มที่คุณกรอกใส่ปากตัวเองทุกวัน ป่วยจากสภาพแวดล้อมที่คุณเอาร่างกายคุณเข้าไปเสี่ยง เจ็บจากกิจกรรมเสี่ยงๆ ที่คุณทำเช่นขับรถ เมา ฯลฯ

๑๑ ดูแลร่างกายของคุณดีดีนะคะ เพื่อว่าไม่ว่าคุณจะไปรักษากับแพทย์คนไหน คุณก็มีโอกาสหายเกินครึ่งแล้วค่ะ แพทย์รักษาตามที่เรียนมา ส่วนการที่คุณหายป่วยนั้นเป็นเพราะร่างกายคุณจริงๆ ค่ะ เพราะแพทย์คนเดียวกัน รักษาวิธีเดียวกัน คนป่วยเป็นโรคเดียวกัน คนหนึ่งรอดคนหนึ่งตาย

ประสบการณ์สอนให้ดิฉันไม่ฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่แพทย์และยา แต่ประสบการณ์ก็สอนดิฉันว่าต้องเพิ่มโอกาสให้ตัวเองด้วยการ เข้าใจอาการป่วยของตัวเอง หาแพทย์ที่ดีที่สุดในโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ดีที่สุดเท่าที่คุณจะหาได้ ร่วมมือกับแพทย์ทุกอย่าง และเมื่อไม่แน่ใจให้ปรึกษาแพทย์อีกสองคนในเรื่องเดียวกัน

ความหวังควรอยู่ที่ตัวเองค่ะ เอาใจใส่ตัวเอง ดูแลตัวเอง อย่าทานยาพร่ำเพรื่อ อย่าเสี่ยง ทำดีที่สุด เมื่อป่วยก็เป็นคนป่วยที่ดีที่สุดฉลาดที่สุดนะคะ

ไม่ต้องเชื่อแพทย์ทุกอย่าง แต่ตราบใดที่แพทย์สั่งอะไรที่สมเหตุผลคุณต้องทำตามค่ะ ถ้าคำสั่งใดไม่สมเหตุผลหรือคุณไม่เข้าใจว่าทำไปทำไมคุณต้องถามนะคะ ถามให้แพทย์อธิบายค่ะ

อย่าปล่อยทุกอย่างขึ้นอยู่กับแพทย์แล้วไปโทษแพทย์ทุกเรื่อง แพทย์ท่านทำตามหน้าที่ ทำตามความสามารถ ท่านทำดีที่สุดแล้ว ท่านสุดความสามารถเท่านั้นนะคะ

ดิฉันมีประสบการณ์การไปโรงพยาบาลมากมายค่ะ ปัญหาที่เกิดขึ้น ทำให้ดิฉันมีสัมพันธภาพที่ดีกับแพทย์พยาบาลทุกคนเพราะดิฉันร่วมรับผิดชอบการป่วยของตัวเอง

คณะแพทย์ฯ มช. คิดค้นสาร”เซซามิน”สกัดจากงาดำ ยับยั้งเซลล์มะเร็ง-ฟื้นฟูผู้ป่วยโรคสมอง ไขข้ออักเสบ

201612211826521-20021028190355

วันที่ 21 ธันวาคม 2559 ที่ห้องประชุมชั้น 15 อาคารเฉลิมพระบารมี ภายในโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) ได้แถลงข่าวประมวลผลงานด้านงานวิจัย หนึ่งในงานวิจัยที่โดดเด่นของคณะประจำปี2559 คือ งานวิจัย ′วิจัยงา และรำข้าว 4.0′ ซึ่ง ศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ อาจารย์ประจำภาควิชาชีวเคมี คณะแพทยศาสตร์ มช. ในฐานะหัวหน้าหน่วยวิจัยที่มีความเป็นเลิศทางด้านวิศวกรรมเนื้อเยื่อ และเซลล์ต้นกำเนิด ได้เปิดเผยว่า ในระยะ 6 ปีที่ผ่านมา ตนได้เล็งเห็นถึงการใช้โภชนบำบัด หรือการรับประทานอาหารให้เป็นยา การใช้อาหารช่วยในการรักษาโรคโดยการดัดแปลงอาหารธรรมดา ให้เป็นอาหารที่เหมาะสมกับโรคที่เป็นอยู่ จึงได้ทำการศึกษาวิจัยงาดำ ซึ่งพบว่า ในเมล็ดงาดำมีสาร ′เซซามิน′ ที่ช่วยยับยั้งเซลล์มะเร็ง และช่วยฟื้นฟูสภาพเซลล์ที่เสื่อมไปให้กลับมาทำงานเป็นปกติได้

นอกจากนี้ยังพบว่าสารเซซามินช่วยทำให้แคลเซียมประสานกับกระดูกเพิ่มมากขึ้น สามารถป้องกันโรคข้อเข่าเสื่อม โรคกระดูกพรุน และยังสามารถปกป้องเซลล์ประสาทที่เสื่อมสภาพให้สามารถกลับมาทำงานเป็นปกติได้ สรุปได้ว่า สารสกัดเซซามินจากงาดำ สามารถต้านเซลล์ต่างๆที่เสื่อมสภาพแล้ว ยังสามารถฟื้นฟูและป้องกันเซลล์ที่ถูกทำลายลงได้

ศ.ดร.ปรัชญา กล่าวว่า จากที่เริ่มทำการศึกษาวิจัยตั้งแต่ปี 2553 โดยได้พัฒนาสารเซซามินจากงาดำออกมาในรูปแบบแคปซูลอาหารเสริม และให้ผู้ป่วยโรคสมอง กับโรคมะเร็งรับประทาน ควบคู่ไปกับการรับประทานยาที่แพทย์สั่ง ผ่านไป 6 เดือน พบว่า ผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต เป็นเจ้าชายนิทรา พูดไม่ได้ขยับตัวไม่ได้ กลับมาพูดได้ นอกจากนี้ผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการรักษาด้วยคีโม มีอาการผมร่วงหมด เมื่อรับประทานสารเซซามินจากแคปซูลควบคู่กับยาที่รับประทานตามปกติ พบว่าผมได้งอกขึ้นตามปกติ และผู้ป่วยอีกหลายรายที่ได้ทำการทดสอบด้วยวิธีการให้รับประทานสารเซซามินจากงาดำแคปซูลนี้ควบคู่ไปกับยาที่รักษา กลับได้ผลเป็นปกติถึงร้อยละ 90

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันคณะแพทยศาสตร์ มช. ได้ทำการจดสิทธิบัตรไปแล้ว 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย สหรัฐอเมริกา และมาเลเซีย ในอนาคตพร้อมก้าวสู่เชิงพาณิชย์ ขณะนี้สามารถสร้างรายได้ตอบแทน มช.กว่า 7 ล้านบาท และในคาดว่าใน 5 ปีข้างหน้า จะสร้างรายได้เข้ามหาวิทยาลัยกว่า 30 ล้านบาท โดยเร่งสนับสนุนทุนวิจัย ที่จะสามารถนำนวัตกรรมงานวิจัย ไปผลิตและสร้างรายได้ตอบแทนให้กับชุมชนและมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นในอนาคต

ศ.ดร.ปรัชญา กล่าวอีกว่า ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ไม่ใช่สมุนไพร แต่ทำจากอาหาร ที่ผ่านมาเรายังไม่เคยได้ยินข่าวว่าคนกินรำข้าวงาข้าวแล้วเสียชีวิต เพราะฉะนั้นแทบจะไม่มีผลข้างเคียงใดๆ ต่างจากการรับประทานสมุนไพรที่กินต่อเนื่องนานๆไม่ได้ เราอยากจะทำให้ขยายออกต่างประเทศมากขึ้น กัมพูชา เมียนมาร์ สปป.ลาว มาเลเซีย ฯลฯ ขยายไปถึงยุโรป เอเซีย และตะวันออกกลาง ซึ่งจะช่วยส่งผลดีไปถึงชาวนาผู้ผลิตแหล่งวัตถุดิบทางเกษตรกรรมได้ด้วย

“การใช้เวลาเข้าไปเสริมสร้างขึ้นอยู่กับตัวบุคคลว่าอาการเป็นอย่างไร ป่วยเป็นโรคอะไร และการที่ร่างกายของแต่ละคนจะตอบสนอง ที่คนนำไปใช้แล้วเกิดประโยชน์ได้อย่างชัดเจนมาก คือโรคข้อเสื่อมข้ออักเสบ มีงานศึกษาทางวิทยาศาสตร์ยืนยันชัดเจนว่าสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลเบาหวานได้แต่ต้องใช้เวลาบ้าง แผลเบาหวานที่รักษาไม่ได้จะค่อยๆแห้งและดีขึ้น ในผู้ป่วยมะเร็ง โรคสมอง พาร์คินสัน ผู้ป่วยที่หลอดเลือดอุดตันแตกจะค่อยฟื้นตัว”

ที่มา: http://www.matichon.co.th/news/402562

addline_and_order_aimmura

ไอยรา แพลนเน็ต ตอบโจทย์คนรักสุขภาพเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ “เอมมูร่า เอ็กซ์”

Aimmura-X

ไอยรา แพลนเน็ต ตอบโจทย์คนรักสุขภาพเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ เอมมูร่า เอ็กซ์ เซซามีนสกัดจากงาดำเข้มข้น ผลงานวิจัยคนไทยหนึ่งเดียวที่ได้จดสิทธิบัตรของโลก

ไอยรา แพลนเน็ต เปิดตัว “เอมมูร่า เอ็กซ์” ” เซซามีนสกัดเข้มข้นจากงาดำ นวัตกรรมใหม่ล่าสุดเพื่อสุขภาพ ชูจุดเด่น ผลิตภัณฑ์เซซามีนหนึ่งเดียวของไทย ที่จดสิทธิบัตรของโลก ผลงานวิจัยของนักวิจัยไทยชื่อดัง ศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ พร้อมเดินหน้าเจาะตลาดอาหารเสริมเต็มสูบ เตรียมเปิดศูนย์ จำหน่ายตามจังหวัดและภาคต่างๆ และเพิ่มช่องทางการสั่งซื้อออนไลน์

ดร.กัมปนาท บุญราศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอยรา แพลนเน็ต จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ เอมมูร่า เอ็กซ์ (Aimmura X) กล่าวว่า บริษัทฯได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1 มีนาคม 2555 ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพและความงาม ภายใต้การบริหารจัดการในระบบขายตรงของบริษัทไอยราแพลนเน็ต ซึ่งมีวิสัยทัศน์ในการดำเนินธุรกิจ ในรูปแบบธุรกิจขายตรงสีขาวองค์กรแห่งนวัตกรรม หรือ “WE CARE WE SHARE WE GROW “

ไอยรา แพลนเนต มุ่งมั่นในปณิธานสร้างคุณค่าสู่สังคมอย่างชัดเจน ผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯส่วนใหญ่จะเกียวข้องกับเรื่องสุขภาพและความงาม การนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆของผลิตภัณฑ์บริษัทฯ จะมีผลงานวิจัย สถาบันวิจัย รองรับให้ผลิตภัณฑ์นั้นน่าเชื่อถือ และมีคุณค่าอย่างแท้จริง ผลิตภัณฑ์เอมมูร่าเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีทั้งผลงานวิจัย สถาบันวิจัย นักวิจัย ดังระดับโลก ที่สำคัญคือ เป็นผลงานของคนไทยล้วนๆ

ล่าสุดบริษัทก้าวล้ำอีกขั้นพร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร “เอมมูร่า เอ็กซ์” (Aimmura X) สูตรใหม่ ที่เป็นนวัตกรรมเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นผลงานวิจัยชิ้นล่าสุด ของ ศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ นักวิจัยชื่อดังของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาของบริษัทฯ ในด้านการสร้างนวัตกรรมและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพของบริษัทฯ

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เอมมูร่า เอ็กซ์ เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่มีสารสกัดจากงาดำ นั่นคือสารเซซามีนซึ่งมีปริมาณสูงสุดมากกว่า เอมมูร่าสูตรปกติทั่วไป ถึง 20 เท่า นอกจากสารเซซามินในงาดำแล้ว เอมมูร่าเอ็กซ์ ยังมีส่วนผสมของธัญพืชออร์แกนิคชั้นดี ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารในการดูแลสุขภาพที่ทรงประสิทธิภาพมากที่สุด

ดร.กัมปนาท กล่าวถึงกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ เอ็มมูร่า เอ็กซ์ ให้เป็นที่รู้จักแก่ผู้บริโภคว่า บริษัทฯ ได้มอบหมายให้ คุณป๋อ ณัฐวุฒิ สกิดใจ พระเอกชื่อดัง มาเป็นพรีเซนต์เตอร์ ประชาสัมพันธ์ให้ผลิตภัณฑ์เอมมูร่า เอ็กซ์ มีความน่าสนใจ และเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักคุ้นเคยกับสินค้า อีกทั้งยังกำหนดกลยุทธ์สร้างแบรนด์ในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย และ การประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ อย่างครอบคลุมเพื่อเพิ่มช่องทางให้กลุ่มเป้าหมาย ได้รู้จักสินค้ามากขึ้น

เอมมูร่าเอ็กซ์ พระเอกตัวจริงเรื่องเซซามิน

ด้านการสร้างมาร์เก็ตแชร์ตลาดอาหารเสริมนั้น ปัจจุบันในท้องตลาดอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ จะมีผลิตภัณฑ์ที่เกียวข้องกับเซซามีน หลากหลายแบรนด์ แต่จากผลงานวิจัยผลิตภัณฑ์บริษัทมั่นใจว่า เอ็มมูร่าเอกซ์ คือ ผู้นำตลาดตัวจริงในเรื่องเซซามีนอย่างแน่นอน ไอยรา แพลนเน็ต มองเป้าหมายรายได้ ของเอมมูร่า เอ็กซ์ ไว้ที่ประมาณ 60% ของตลาดอาหารเสริมในกลุ่มเซซามีน

ทั้งนี้ นอกจากการขายผ่านตัวแทนของไอยรา แพลนเน็ตแล้ว บริษัทฯ ยังมีแผนงานที่จะเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้ลูกค้าที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกได้เข้าถึงง่ายขึ้น โดยในอนาคตจะมีการตั้งศูนย์จำหน่ายตามจังหวัดและภาคต่างๆ รวมถึงช่องทางการสั่งซื้อออนไลน์

ศ.ดร.ปรัชญา คงทวีเลิศ นักวิจัย ชื่อดังจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า คุณค่าของสารเซซามีน ที่สกัดจากงาดำ จะมีสรรพคุณ ในการยับยั้งการอักเสบของเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูสภาพเซลล์ที่เสื่อมได้ งาดำนั้นมีสรรพคุณมากมาย ตั้งแต่อดีต 4,000 ปี ก็มีการทานงาดำกันมาตลอดไม่เคยมีใครทานงาดำแล้วเป็นโรคจึงได้นำมาวิจัยถึงคุณประโยชน์อย่างแท้จริง ว่ามีสรรพคุณอะไรบ้าง จากการศึกษาวิจัยตั้งแต่ปี 53 จนถึงปัจจุบัน และงานวิจัยจากทั่วโลกที่นักวิทยาศาสตร์จำนวนมากมายได้ทำการศึกษาวิจัย ได้ค้นพบว่าในเมล็ดงาดำมีสารเซซามีนอยู่ภายใน ซึ่งสารเซซามีน นี้จะช่วยยับยั้งการพัฒนาเซลล์ต้นกำเนิดที่จะเปลี่ยนไปเป็นเซลล์สลายกระดูกที่ทำให้เกิด โรคกระดูกพรุน นอกจากนี้ยังพบว่าสารเซซามินยับยั้งการเสื่อมสลายของกระดูกอ่อนซึ่งเป็นสาเหตุของโรคข้อเสื่อมได้อีกด้วย

นอกจากนี้ จากการศึกษาวิจัยในห้องปฎิบัตการพบว่าช่วยฟื้นฟูให้เซลล์ประสาทรวมทั้งเครือข่ายของระบบประสาท ซึ่งเป็นทั้งการปกป้องและฟื้นฟู ที่น่าจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ช่วยในโรคสมอง ไม่ว่าจะเป็นเส้นเลือดอุดตันในสมองเส้นเลือดแตก ที่ทำให้เป็นโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต โดยสารเซซามีนจะเข้าไปช่วยปกป้องเซลล์ประสาทที่ยังดีอยู่ และช่วยฟื้นฟูเซลล์ประสาทที่เสื่อมสภาพ

สุดท้ายการค้นพบล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งที่ถือว่าเป็นโรคที่เกิดมากอันดับ 1 สารเซซามีนมีหน้าที่กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งบางชนิดเกิดการตาย และจากการศึกษาวิจัยเมื่อเร็ว ๆ นี้ ในไข่ฟัก ได้พบว่าสารเซซามินสามารถตัดวงจรหรือลดเส้นเลือดใหม่ที่เป็นนำเลี้ยงให้กับเซลล์มะเร็งพร้อมกับค่อยๆ ฟื้นฟูสภาพเซลล์ให้กับคืนมา สารเซซามีนนั้นไม่ใช่ยาเพื่อรักษาโรค แต่เป็นอาหารที่เข้าไปฟื้นฟูสภาพร่างกายให้กลับมาปกติ “การทานอาหารเป็นยา มีคุณค่ามากกว่าที่จะทานยาเป็นอาหาร” นักวิจัยชื่อดังกล่าวในที่สุด

เผยแพร่ข่าวโดย: พีอาร์ บุฟเฟ่ต์ www.prbuffet.com ข่าวประชาสัมพันธ์ online

สนใจสอบถามข้อมูล หรือสมัครสมาชิก ติดต่อ 086 604 7044

addlinebutton2